คุณพ่อ คุณแม่ มือใหม่มาดูกัน รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี 2565

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อรถเข็นเด็กสักคัน มาศึกษาดูกันก่อนดีกว่าว่า รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี 2565 ยี่ห้อใดกำลังได้รับความนิยม ซึ่งรถเข็นเด็กที่มีประสิทธิภาพดีตอบโจทย์การใช้งานจะต้องเป็นรถเข็นที่มีความแข็งแรงแต่น้ำหนักเบา และที่สำคัญคือยังต้องตอบโจทย์การพกขึ้นรถหรือขึ้นเครื่องบินตาม ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการอีกด้วย 

มาดูกัน รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี 2565 

ทั้ง 3 รุ่นที่เรานำมาแนะนำกันนี้ มีประสิทธิภาพดีใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตทำให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้งานจริง 

1. Keenz Air Plus 2.0 

• ขนาด : 100 ซม. x 60 ซม. x 30 ซม 
• น้ำหนัก : 6.8 กก 

• กลุ่มอายุที่เหมาะสม : 0 – 36 เดือน (อายุ 3 ปี)  

ได้รับการยกย่องว่าเป็นรถเข็นเด็กที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ตะกร้ารถเข็นเด็กที่มีความกว้างขวางนี้มีความจุถึง 40 ลิตร และรับน้ำหนักได้ถึง 20 กก. สามารถบรรทุกของหนักได้ในขณะที่ยังเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น รองรับทารกที่มีน้ำหนักไม่เกิน 30 กก. ได้อย่างง่ายดาย เรื่องความทนทานใช้งานนานหายห่วงแน่นอน แต่ถึงจะแข็งแกร่งขนาดไหนแต่ก็มาพร้อมกับความเบาด้วยน้ำหนักเพียง 6.8 กก. เท่านั้น  

2. Joie Pact Lite 

• ขนาด : 82 ซม. x 46.8 ซม. x 99 ซม 
• น้ำหนัก : 5.5 กก 
• ช่วงอายุที่เหมาะสม : ทารกแรกเกิด ถึงเด็กที่มีน้ำหนัก 15 กก. 

รถเข็นเด็กคันนี้มีโครงที่กะทัดรัด และระบบพับด้วยมือเดียวที่ไร้รอยต่อ และได้รับการออกแบบมาให้บรรจุและขนส่งได้ง่ายโดยไม่ยุ่งยากเลย หนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดของรถเข็นเด็กแบบพับได้นี้คือเบาะนั่งแบบปรับเอนได้หลายตำแหน่ง คุณสามารถปรับที่นั่งได้ตามต้องการเพื่อให้ลูกน้อยของคุณสบายตลอดเวลา รถเข็นเด็กรุ่นนี้มีหลังคา UPF50+ ที่ขยายได้และมีกระบังหน้า ซึ่งสามารถปกป้องลูกน้อยของคุณจากแสงแดดได้  

3. Babyzen YOYO+ 6  

• ขนาด : 52 ซม. x 44 ซม. x 18 ซม 
• ช่วงอายุที่เหมาะสม : แรกเกิดถึง 22 กก.  

รถเข็นเด็ก Babyzen YOYO+6 ใช้งานง่ายและออกแบบมาให้พับและกางออกได้ในทันที พกพาสะดวกและมาพร้อมกับสายรัด ดังนั้นคุณจึงสามารถสะพายไว้บนไหล่ได้ รถเข็นเด็กน้ำหนักเบานี้มีน้ำหนักเพียง 6.2 กก. เท่านั้น และพับเก็บได้ง่าย จึงมีขนาดเล็กพอที่จะใส่ในท้ายรถได้ อีกทั้งยังสามารถพกพาขึ้นเครื่องบินได้โดยไม่กินพื้นที่มากเกินไป   

และนี่ก็คือ รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี 2565 รถเข็นเด็ก 3 รุ่นที่เรานำมาแนะนำกัน หวังว่าจะทำให้คุณมีตัวเลือกในการตัดสินใจ ในการเลือกซื้อรถเข็นเด็กของตัวเองเพิ่มมากยิ่งขึ้น และจะทำให้คุณมีโอกาสเลือกรถเข็นเด็กที่เหมาะสมกับขนาดของลูกน้อย และฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ชีวิตการเลี้ยงดูลูกน้อยของคุณสะดวกสบายมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว