ผู้ผลิตไฟฟ้า ช่วยพัฒนาพลังงานทดแทนด้วยการผลิตไฟฟ้าจากชานอ้อยได้อย่างไร

ผู้ผลิตไฟฟ้า ได้นำชานอ้อยมาเป็นส่วนประกอบในการผลิตกระแสไฟฟ้า ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าจึงสามารถพัฒนาพลังงานทดแทนได้ อีกทั้งปริมาณก็เพียงพอกับการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างต่อเนื่อง มีรัฐบาลสนับสนุนเรื่องนี้อยู่แล้ว บทความนี้จะพูดถึง ผู้ผลิตไฟฟ้า ว่ามีการพัฒนาพลังงานทดแทนได้อย่างไรด้วยการใช้ชานอ้อยมาผลิตไฟฟ้า 

ผู้ผลิตไฟฟ้า สามารถใช้ชานอ้อยผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร 

เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา โรงงานน้ำตาลของไทยผลิตชานอ้อยเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงนำเข้าระบบผลิตไฟฟ้าสูงถึง 2,710 ล้านหน่วย ซึ่งเป็นข้อมูลที่บันทึกปริมาณไฟฟ้าที่จำหน่ายให้กับการไฟฟ้าตามสัญญาการขายที่ระบุเอาไว้ว่าต้องมีจำนวน 896.82 เมกะวัตต์ ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2558 จากการพัฒนาพลังงานทดแทนจากชีวมวลในปี 2557 โดยทำการผลิตจนมีจำนวนทั้งสิ้น 2,451.82 เมกะวัตต์  

ข้อมูลนี้มาจากแผนพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือก พ.ศ.2558-2579 เมื่อเทียบสัดส่วนระหว่างไฟฟ้าที่ผลิตด้วยชีวมวลกับไฟฟ้าที่ ผู้ผลิตไฟฟ้า ใช้ชานอ้อยเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตนั้น มีอัตราส่วน 1:2.73 ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จะได้ 36.58 ปัจจุบันการผลิตรูปแบบนี้ได้รับความนิยมสูงเพราะช่วยประหยัดต้นทุน ลดขยะทางการเกษตร และใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์มากที่สุด 

ผู้ผลิตไฟฟ้า มีการดำเนินการผลิตไฟฟ้าด้วยชานอ้อยอย่างไร 

อ้อยถือเป็นพลังงานทดแทนที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งที่ ผู้ผลิตไฟฟ้า ต้องใช้ในการผลิต ในประเทศไทยมีแหล่งพลังงานธรรมชาติที่จะหมุนเวียนทุกปี ดังที่กล่าวไว้ว่าเงื่อนไขการผลิตไฟฟ้าจากชานอ้อยเป็นการผลิตชานอ้อยจากโรงงานน้ำตาล แบ่งฤดูกาลทำงานตามฤดูกาลปลูกอ้อย มีทั้งหมด 3 ฤดู คือ ฤดูบำรุงรักษา ฤดูละลาย และฤดูหีบอ้อย  

ฤดูเปิดหีบอ้อยจะมีระยะเวลาประมาณ 4 ถึง 5 เดือน ช่วงนั้นอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมของทุกปี ในช่วงนี้ อ้อยจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลและน้ำตาลบางส่วนจะถูกเก็บไปแปรรูป ฤดูหลอมเหลวกินเวลาประมาณ 3-4 เดือน เป็นช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคมของทุกปี ช่วงนี้จะนำน้ำตาลดิบจากฤดูหีบมาหลอมเพื่อใช้ผลิตน้ำตาลทราย จากนั้นโรงงานก็ได้เตรียมผลผลิตนี้ไว้ใช้ฤดูเก็บเกี่ยว ฤดูซ่อมบำรุงเป็นการซ่อมเครื่องจักรเพื่อเตรียมการผลิตตลอดทั้งปี โดยโรงน้ำตาลก็มีการเตรียมพร้อมให้สามารถผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

จะเห็นได้จากบทความว่า ผู้ผลิตไฟฟ้า ใช้อ้อยในการผลิตซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการไฟฟ้าฯ ก็จะได้รับไฟฟ้าจากการผลิตรูปแบบนี้เช่นกัน ไม่เพียงแต่อ้อยใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าได้แล้ว สามารถใช้ในโรงงานน้ำตาลและผลิตน้ำตาลเพื่อการบริโภคของมนุษย์ได้ด้วย